วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

เดโมแครต ยังไม่มีผู้เล่นหลัก ที่จะทดแทน โอบาม่าได้

Democrats ยังไม่มีผู้เล่นหลัก ที่จะทดแทน โอบาม่าได้  ถ้าหากเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ต่อสู้คดี ชนะ จะเป็นทางเลือกนึงของชาวอเมริกันในอนาคต เพราะเรื่องที่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนเปิดเผยไม่ได้เป็นเรื่องลับอะไรเลย ระบบงานข่าวสารอเมริกัน และงบประมาณ เป็นเรื่องที่เปิดเผยอยู่แล้ว

ทำให้แม่น้ำมิสซิสซิปปีที่มีความยาว 3,730 กม. เกิดความเสี่ยงไปด้วย ในกรณีเกิดสงครามนอกรูปแบบ โดยแยกถนนสาย 87ตัดกับถนนหมายเลข13 จะมีความเสี่ยงสูงสุดที่จะเกิดอุบัติเหตุทางสารเคมี ช่วงนี้ความเสี่ยงของสงครามนอกรูปแบบคุกคามกลุ่มธุรกิจ ประกัน ประกันชีวิต เกี่ยวกับความเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัส ในจีน ซึ่งมีคนทำประกันชีวิตมากกว่าในแอฟริกา ที่มีเชื้อ อีโบล่า ระบาด  AIA มีลูกค้าทำประกันชีวิตอยู่ในจีน และภูมิภาค เอเชีย  ราวๆ 23 ล้านคน

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

การออกแบบรถ และการใช้หมวกกันน็อค เป็นเหรียญสองด้านที่ต้องระมัดระวังในการใช้

การออกแบบรถสไตล์เคิร์ฟ และมีที่พักเท้าขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับส่งเด็กไปโรงเรียน
แต่ไม่ควรนำไปใช้พาเด็กขี่รถเล่น

และการออกแบบรถสไดล์นี้ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องการขับรถเร็วมากนัก อีโก้ของผู้ขับขี่จะเน้นการขับช้าเพื่อโชว์ความสวยงาม

แต่การแก้ปัญหาด้วยโปร อาร์ม ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของรถดีขึ้นแต่จะยากเวลาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

การออกแบบรถ เวสป้า ทำให้บรรทุกน้ำหนักได้มาก แต่ควรแก้ไขเรื่องจุดศูนย์ถ่วง

Volkswagen เป็นรถที่มีค่าแอร์โรวไดนามิคสูงมาก แต่จะทำให้นึกถีงเต่า หรือ หมวกทหาร

นูโวสไตล์ทำให้เกิดความรู้สึก แอร์โร่ว์ ความนึกคิดด้านการแข่งขัน ผู้ขับขี่ควรระมัดระวัง แต่การถ่วงน้ำหนักจุดสมดุล ฮอนด้าทำได้ดีมาก

รถที่ใช้เกิน5ปี หักหนี้สูญทางบัญชีแล้ว ควรขายเป็นรถมือสองผ่านทางหมู่บ้าน KNU หรือ ม้งคริสเตียนในลาว

หมวกกันน็อค บางรุ่นบดบังทัศนวิสัย ผู้ที่ขับช้าควรใช้หมวกแบบครึ่งใบ


ACE อินชัวร์รัน มีโครงการแจกหมวกกันน็อคสำหรับเด็ก แต่ประกันรถจักรยานยนต์หายต้อง กมลศุโกศลประกันภัย


วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

ที่ดินใน ธกส เป็น NPL ที่ทำกำไรจากการขายได้ยาก เพราะส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่ไม่ติดถนน เกษตรกรส่วนใหญ่จึงยังสามารถทำกินต่อไปได้ ถ้าหาก มี กฎหมายปฏิรูปที่ดิน หรือ การจัดรูปที่ดิน อาจจะทำให้เกิดศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยชาวนาได้ จากวงเงินที่สูงขึ้น

ที่ดินใน ธกส เป็น NPL ที่ทำกำไรจากการขายได้ยาก เพราะส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่ไม่ติดถนน เกษตรกรส่วนใหญ่จึงยังสามารถทำกินต่อไปได้ จึงเป็นเหตุว่า ธกส มีสภาพคล่องสูง กว่าธนาคารทั่วไป และกำไรจากการปล่อยกู้ต่ำ และทำให้ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะช่วยชาวนาได้  จึงทำให้เกิดการเสนอให้มีการตั้ง ธนาคารชาวนา เพื่อทำการโดยเฉพาะเจาะจง แต่ถ้าหากมีการตั้งธนาคารชาวนาแล้ว ก็ควรมีการตั้งธนาคาร ยางพารา กุ้ง และไก่ด้วย   ถ้าหาก มี กฎหมายปฏิรูปที่ดิน หรือ การจัดรูปที่ดิน ธกส จะเป็นวิสาหกิจ ที่ทำกำไรได้สูงมาก แต่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำการเกษตร ที่ควรหามาตรการไว้รองรับต่อไป



ธ.ก.ส. ร่วมกับ บริษัทไทยประกันชีวิต จัดทำประกันชีวิตให้กับลูกค้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบเบื้องต้น 270,000 ราย ระยะเวลา 4 ปี เริ่ม 1 ต.ค 53 - 30 ก.ย. 57 ค่าเบี้ยประกันกว่า 280 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้ามีหลักประกันที่มั่นคงในการดำรงชีวิตและป้องกันปัญหาภาระหนี้สินผูกพันต่อครอบครัวและทายาทของผู้กู้เงิน

(21 ตุลาคม 2553 ) ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการลงนามและรับมอบกรมธรรม์ ระหว่าง นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และ ดร.อภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เพื่อดำเนินการจัดทำประกันชีวิตให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ โดยภายในงาน รมว.คลังยังได้มอบบัตรลดหนี้ วินัยดีมีวงเงิน ให้แก่ลูกค้าในโครงการดังกล่าวที่มาร่วมงานด้วย

หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า การจัดทำประกันชีวิตให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ เป็นหนึ่งในมาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับลูกค้า และสร้างหลักประกันที่มั่นคงในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาหนี้สินผูกพันต่อครอบครัวและทายาทของผู้กู้เงินกรณีผู้กู้ถึงแก่กรรมและเพื่อลดความเสี่ยงด้านสินเชื่อของ ธ.ก.ส. การดำเนินการครั้งนี้ธ.ก.ส. ได้มอบให้บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นผู้จัดทำประกันชีวิตกลุ่มให้กับลูกค้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ กับ ธ.ก.ส. กำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 ในอัตราค่าเบี้ยประกัน 0.26 บาท ต่อทุนประกัน 100 บาท ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้ส่งข้อมูลรายชื่อลูกค้าตามโครงการให้บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด ครั้งที่ 1ประมาณ 270,000 ราย วงเงินกู้ทั้งสิ้นประมาณ 27,000 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันทั้งสิ้นประมาณ 280.80 ล้านบาท หรือปีละ 70.20 ล้านบาท โดยให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรเนื่องจากเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ โดยรวมถึงอัมพาตสิ้นเชิงถาวร ตาบอดสนิทหนึ่งข้างและไม่สามารถรักษาให้หายเป็นปกติหรือตาบอดทั้งสองข้างแกับสูญเสียมือหรือเท้าข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างโดยการตัดออกตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้า โดยให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทุกสถานที่ทั่วโลก ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ทั้งนี้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับทุนประกันตามวงเงินกู้และสูงสุดไม่เกินคนละ 200,000 บาท

นายลักษณ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ของ ธ.ก.ส.ว่า ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2553 มีลูกหนี้ผ่านการเจรจาประนอมหนี้ 622,996 ราย คิดเป็นร้อยละ 97.69 เจรจาประนอมหนี้สำเร็จ 355,670 ราย คิดเป็นร้อยละ 57.09 เจรจาประนอมหนี้ไม่สำเร็จจำนวน 23,520 ราย คิดเป็นร้อยละ 3.78 ยุติเรื่องจำนวน 243,806 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.13 ประสงค์กู้เงิน ธ.ก.ส. จำนวน 343,605 ราย จำนวนเงิน 41,599.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 96.61 ของผู้ที่ประนอมหนี้สำเร็จ โดย ธ.ก.ส.พิจารณาอนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 308,071 ราย จำนวนเงิน 30,750.71 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 89.66 ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้มีการอบรมพัฒนาศักยภาพลูกหนี้นอกระบบหลักสูตรวิถีชีวิต จำนวน 51,523 ราย หลักสูตรวิถีทำกิน จำนวน 12,186 ราย สำหรับลูกค้าตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบที่มีวินัยในการชำระหนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปี ธ.ก.ส.จะพิจารณาให้สินเชื่อเพิ่มเติม ร้อยละ 50 ของจำนวนหนี้ที่ชำระคืน คิดดอกเบี้ยคงที่ในอัตราร้อยละ 0.75 ต่อเดือน หรือร้อยละ 9 ต่อปี ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้ามีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ และสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในยามจำเป็นและฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กู้กลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายสินเชื่อได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554

ด้าน ดร.อภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า โครงการลดหนี้นอกระบบของรัฐบาล ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่เป็นการบรรเทาปัญหาในระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ปัญหาของภาคประชาชนในระดับบุคคล และช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นในอนาคต

ไทยประกันชีวิต บริษัทประกันชีวิตของคนไทยที่มุ่งดูแลชีวิตคนไทยในทุกระดับ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารโครงการ ประกันสินเชื่อหนี้นอกระบบของลูกหนี้ ธ.ก.ส. ซึ่งไทยประกันชีวิตมีความเชื่อมั่นว่า บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการพอร์ตดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการรับประกันชีวิตกลุ่มที่มีพอร์ตขนาดใหญ่ อาทิ การรับประกันชีวิตทหาร ทั้งทหารบก ทหารเรือและทหารอากาศ ที่ดำเนินการมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ทำให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการเป็นอย่างดี และมีต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก

การรับประกันชีวิตลูกหนี้ ธ.ก.ส.ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างหลักประกันที่มั่นคงแก่ลูกหนี้ และไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ขณะเดียวกันยังสร้างความอุ่นใจแก่ ธ.ก.ส. ในฐานะเจ้าหนี้ ว่ามูลหนี้ที่เกิดขึ้นได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกัน และไม่กลายเป็นหนี้สูญในอนาคต

เพียงแต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ที่อยู่ในวัยทำงานที่กู้ ธกสได้ และทำสัญญาประกัน สูงไปบ้าง อาจเกิดจากเหตุจำเป็นที่นาล่มไปกับน้ำ
แต่ปรกติชาวนาที่ไม่ได้เข้ากลุ่มหัวคะแนนทางการเมืองหรือซอร์สระบบราชการมักจะเกิดปัญหาเพราะพึ่งพาระบบของประกาศคณะปฎิวัติปี49ไม่ได้

ปีที่น้ำท่วมภาคกลาง เขื่อนเป็นพื้นที่อ่อนไหว ห้ามคนนอกเข้าออก อาจจะเกี่ยวข้องกับการที่เกษตรกรจะประหยัดค่าปุ๋ยฟอสฟอรัสได้นับหมื่นล้านบาท และอาจจะละลายชั้นเกลือโบราณ ที่มีการตรวจพบไอโอดีนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุทธยา ซึ่งหมายถึงปุ๋ยเกลือฟอสเฟตที่จะอิ่มน้ำละลายขึ้นบนชั้นดิน

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติและชาวนาโดยรวม ผู้ที่สามารถวิเคราะห์ข่าวสารได้จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าผู้อื่น


http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20120215/436302/%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%AA.%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B52.6%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html
ธ.ก.ส.จัดทำประกันชีวิตให้ลูกค้าชั้นดี กว่า 2.6 ล้านราย วงเงินเกือบ 1 พันล้านบาท คุ้มคาองรายละ 1 แสน จ่ายสินไหมขั้นต่ำ 3 หมื่นบาท


นายลักษณ์  วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในพิธีลงนามระหว่าง นายอวยชัย  อัครวณิชเลิศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กับ ดร.อภิรักษ์  ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด ในเรื่องของสัญญาจ้างทำประกันชีวิตให้แก่ลูกค้า ธ.ก.ส.ตามโครงการลดภาระหนี้แก่ลูกค้าชั้นดี โดยคุ้มครองตามมูลหนี้แต่ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ณ ห้องประชุมยุคลธร โรงแรมอมารี แอร์พอร์ต เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนามนายลักษณ์  วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการสวัสดิการเพื่อลดภาระหนี้ให้แก่ลูกค้าชั้นดี เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่มีประวัติด้านวินัยทางการเงินที่ดี โดย ธ.ก.ส. ได้คัดเลือกและทำสัญญาจ้างกับ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดทำกรมธรรม์ประกันชีวิตให้แก่ลูกค้าชั้นดี เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่ทายาทและครอบครัว ซึ่งจะให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตหรือทุพลภาพสิ้นเชิงถาวรตามมูลหนี้จริง
คือ ต้นเงินกู้ที่ลูกค้าคงเป็นหนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ ณ วันที่ลูกค้าเสียชีวิตบวกกับดอกเบี้ยเงินกู้นับถัดจากวันที่ลูกค้าเสียชีวิต แต่ไม่เกินรายละ 100,000 บาท โดยบริษัทฯจะจ่ายสินไหมทดแทนให้แก่ ธ.ก.ส.เพื่อนำมาหักชำระหนี้เงินกู้แทนลูกค้าตามจำนวนที่เป็นหนี้ กรณีมูลหนี้จริง ตั้งแต่ 0-30,000 บาท บริษัทฯจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนรายละ 30,000 บาท

โดยบริษัทฯจะจ่ายให้กับ ธ.ก.ส.ภายใน 15 วันทำการ นับจากที่บริษัทได้รับเอกสารครบถ้วน ตัวอย่าง เช่น ลูกค้าที่ชำระหนี้ครบถ้วนไม่มีมูลหนี้คงเหลือแต่เกิดเหตุเสียชีวิต ทายาทก็จะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทน จำนวน 30,000 บาท  หรือ กรณีลูกค้ามีมูลหนี้คงเหลือ 20,000 บาท บริษัทฯจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนจำนวน 30,000 บาท เมื่อหักชำระหนี้แล้วยังมีเงินคงเหลืออีก 10,000 บาท ธ.ก.ส.จะจ่ายคืนให้กับทายาท หรือ กรณีลูกค้ามีมูลหนี้รวมดอกเบี้ย 200,000 บาท บริษัทฯจะจ่ายเพียง 100,000 บาท ส่วนหนี้ที่เหลืออีก 100,000 บาท ทายาทต้องเป็นผู้รับใช้หนี้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ถือว่าหนี้ที่มีอยู่นั้น ได้ถูกลดภาระในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ลูกค้าชั้นดีที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์เป็นระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน  เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2554 - 30 เมษายน 2556 มีลูกค้าที่ได้รับความคุ้มครอง จำนวน 2,609,467 ราย คิดเป็นวงเงินค่าเบี้ยประกันทั้งสิ้น 991,883,019 บาท โดยให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตหรือทุพลภาพถาวรจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ รวมถึงอัมพาตสิ้นเชิงหรือสูญเสียมือ เท้า และดวงตา แต่จะไม่คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอัตวินิบาตกรรมภายในปีแรก
ของการเอาประกันและภาวะทุพลภาพสิ้นเชิงที่เกิดขึ้นหรือมีมาก่อนการทำประกัน

นายลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำประกันชีวิตมอบเป็นสวัสดิการให้แก่ลูกค้าชั้นดี เป็นหนึ่งในมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมลูกค้าชั้นดีของ ธ.ก.ส เพื่อสร้างความเป็นธรรมและมอบเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ลูกค้าที่มีวินัยทางการเงิน ปฏิบัติตามเงื่อนไขของธนาคาร ซึ่งลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการต้องมีประวัติการชำระหนี้ดี ไม่มีหนี้ค้างชำระ ไม่อยู่ในระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ไม่อยู่ในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ และไม่เป็นลูกค้ารับใช้หนี้เงินกู้ นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังมีการส่งเสริมในเรื่องสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ลูกค้า ธ.ก.ส. เพื่อให้มีเงินไปใช้ในกิจการเกี่ยวกับงานฌาปนกิจศพ โดยไม่สร้างภาระให้กับบุคคลในครอบครัว เรียกได้ว่าเป็นมรดกความดีที่ลูกค้าธ.ก.ส.ได้สงเคราะห์ช่วยเหลือกันและกัน อีกทั้งยังได้สนับสนุนให้ลูกค้าทำประกันสินเชื่อกับบริษัทประกันต่างๆที่เป็นเครือข่ายกับ ธ.ก.ส. โดยความสมัครใจ เพื่อจะได้มีเงินทุนให้กับครอบครัวไว้ใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต

ด้านนายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า
 ไทยประกันชีวิตรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจาก ธ.ก.ส. เพื่อให้ความคุ้มครองประกันชีวิตแก่ลูกค้าชั้นดี ตามโครงการสวัสดิการลดภาระหนี้ อันเป็นการสร้างหลักประกันและความอุ่นใจให้แก่เกษตรกรซึ่งเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. โดยโครงการนี้จะให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร


โครงการดังกล่าวเกิดจากความตั้งใจของ ธ.ก.ส.ในการลดภาระหนี้ ในกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นกับลูกค้าหรือครอบครัวของลูกค้า ซึ่งไทยประกันชีวิตเองตระหนักถึงความตั้งใจดีของ ธ.ก.ส.ในข้อนี้ กอรปกับเกษตรกรเป็นพลังสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้นำเสนอความคุ้มครองในอัตราเบี้ยประกันที่เหมาะสม

การรับประกันในโครงการนี้ จะรับประกันลูกค้าชั้นดีที่ขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. โดยให้ความคุ้มครองตามมูลหนี้ แต่ไม่เกินรายละ 100,000 บาท และมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้คุ้มครองตามสัญญาต่อเนื่อง 1 ปี 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 ถึงเดือนเมษายน 2556 โดยที่ผ่านมามีลูกค้าเสียชีวิตและเคลมสินไหมแล้วรวม 35 ราย คิดเป็นเงินสินไหมรวมกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท





ลพบุรีโมเดล : กู้เงินธกส. ถูกหลอกทำ“ประกันชีวิต” แถมบริษัทประกันปฏิเสธแล้วไม่แจ้ง  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=840630



ชาวบ้านโดยเฉพาะชาวบ้านในต่างจังหวัด คือตัวอย่างของ “คนซื่อ” ที่บางครั้งกลายเป็น “เหยื่อ” ของ “คนคิดไม่ซื่อ” กรณีที่เกิดขึ้นที่ ต.ชอนน้อย อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากการที่ชาวบ้านไปกู้เงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) แล้วทำประกันเงินกู้ ซึ่งจากการบอกเล่าของชาวบ้านทุกคนพูดตรงกันว่าเจ้าหน้าที่ ธกส.บังคับว่า “ต้องทำประกัน ไม่อย่างงั้นจะกู้ไม่ได้” ซึ่งต่อมาผู้บริหาร ธกส.ชี้แจงว่า ธกส.ไม่มีนโยบายบังคับว่าลูกค้าต้องทำประกัน เพียงแต่ให้คำแนะนำเท่านั้น

ถ้าแค่นั้น คงไม่มีปัญหา เพราะชาวบ้านทุกคนก็เข้าใจว่า ทำประกันไว้ก็ดี เป็นอะไรไป ทายาท ลูกหลาน จะได้ไม่ต้องมารับภาระหนี้

กรณีที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านที่กู้เงินจาก ธกส.พัฒนานิคม ถือว่ามี “ปัญหางอก” มารอบด้าน คือ

1.รายที่ทำประกันไป ไม่ได้รับความคุ้มครอง เพราะบริษัทประกันคือ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ปฏิเสธการทำประกัน แต่ปัญหาคือ ไม่ได้มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบมาก่อน ซึ่งเรื่องนี้แดงขึ้นมาเพราะ ชาวบ้านที่ทำประกันเสียชีวิต

ชาวบ้านรายที่เสียชีวิต มีฐานะเป็น “ผู้ค้ำร่วม” คือ เดิมทีแม่ของผู้ตายเป็นคนกู้เงิน แต่แม่อายุเกิน 60 ปี ทางบริษัทประกันจึงให้ไปหาทายาทมาค้ำประกันเงินกู้ หากแม่เป็นอะไรไปลูกก็จะเป็นผู้รับผิดชอบหนี้ และลูกชายก็ได้ทำประกันไว้ ซึ่งตามข้อตกลงของ ธกส.ที่ทำกับบริษัทประกัน 15 แห่งที่มาเป็นพันธมิตร (มีการเซ็นต์เอ็มโอยู) กับ ธกส. ได้กำหนดไว้ว่าบริษัทจะต้องรับประกัน “ผู้ค้ำร่วม” ด้วย

ปรากฎว่า บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ไปดำเนินการไม่ตรงกับข้อตกลง คือ “ปฏิเสธทำประกัน” ให้กับ “ผู้ค้ำร่วม” ซึ่งพอผู้บริหาร ธกส.ทราบเรื่องก็ได้มีการทำหนังสือลงวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา แจ้งไปยัง ธกส.ทั่วประเทศเพื่อให้ระงับการแนะนำให้ลูกค้าทำประกันกับไทยพาณิชย์ (ข้อมูลจากการสัมภาษณ์นายสมชาย อาริยชาติสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายเงินฝาก ธกส.)

ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นโชคร้ายของใคร...เกิดกรณี “ผู้ค้ำร่วม” ที่ทำประกันไว้และถูกไทยพาณิชย์ปฏิเสธ เสียชีวิตขึ้นมาพอดี คือรายที่ลพบุรีนี่แหละ

มี 2 ประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ 1.การปฏิเสธประกันนี้เป็นการทำผิดข้อตกลงที่ไทยพาณิชย์กับ ธกส. และ 2.ไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบมาก่อนว่าเขาถูกปฏิเสธการทำประกัน

หลังทราบเรื่อง ผู้บริหาร ธกส.ได้เรียกตัวแทน บมจ.ไทยพาณิชย์มาพูดคุย และยืนยันว่าไทยพาณิชย์ทำผิดเงื่อนไข รวมทั้งไม่มีการแจ้งลูกค้ามาก่อน ดังนั้นไทยพาณิชย์จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งสุดท้ายไทยพาณิย์ก็ยอม "จ่ายเงินเยียวยา" ในจำนวนเท่ากับวงเงินกู้ที่มีการทำประกันไว้ คือ 350,000 บาท โดยจะจ่ายกันในวันที่ 17 ธันวาคม นี้

แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะมีชาวบ้านอีกร้อยกว่ารายที่ถูก บมจ.ไทยพาณิชย์ปฏิเสธทำประกันในลักษณะนี้ และยังไม่ได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบเช่นกัน ซึ่งกรณีนี้ทาง ธกส.บอกจะไปตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมยืนยันว่าทางไทยพาณิชย์ก็ต้องรับผิดชอบลูกค้าเหล่านี้ เพราะเป็นไปตามเอ็มโอยูที่เคยทำกันไว้อยู่แล้ว

2.ชาวบ้าน “ถูกหลอก” ให้ทำประกันชีวิตเพิ่มเข้าไปด้วย

กรณีนี้ชาวบ้านทุกคนที่ถูกหลอกพูดตรงกันว่า ตัวแทนประกันฯ บอกว่าเป็นการประกันหนี้ในอีกรูปแบบที่ทำแล้วเบี้ยประกันที่จ่ายไปไม่สูญ (แบบแรกเป็นแบบเบี้ยประกันสูญ ค่าเบี้ยประกันอยู่ที่ 600 บาทต่อเงินกู้ 1 แสนต่อปี) โดยจะได้เงินคืนเมื่อส่งครบเบี้ยประกันครบ 3 ปี หรือ 5 ปี พร้อมดอกเบี้ยอีก 2 เปอร์เซ็นต์

ชาวบ้านหลงเชื่อทำประกันส่วนนี้ไป ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่ามีกี่ราย เพราะยังคงมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้มีผู้มาแจ้งไว้แล้วประมาณ 20 ราย โดยเบี้ยประกันของแต่ละรายก็จะแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป และมีรายนึงทำไว้ถึง 6 หมื่นบาท

ชาวบ้านเพิ่งมารู้ชัดๆว่าตัวเอง “ถูกหลอก” เมื่อไม่กี่วันนี้ หลังจากรวมตัวไปร้องทุกข์ที่ สภ.พัฒนานิคม และตำรวจเรียก ธกส.และตัวแทนจากไทยพาณิชย์มาชี้แจง (เป็นคนละคนกับคนที่รับทำประกันจากชาวบ้าน) ตัวแทนประกันฯบอกว่า ประกันส่วนนี้ที่ชาวบ้านทำไป แท้จริงมันคือ “ประกันชีวิต” ที่ต้องส่งกันยาว 20 ปี

แถมตัวแทนประกันรายนั้น ยัง “ยักยอก” เบี้ยประกันที่เก็บจากชาวบ้านบางส่วนเอาไว้ ไม่ส่งเข้าบริษัท ทำให้ชาวบ้านหลายรายไม่ได้รับกรมธรรม์และไม่มีชื่อเป็นผู้ประกันตัวกับบริษัท

จริงๆวันที่ทำประกัน ชาวบ้านพยายามถามถึงกรมธรรม์ แต่ตัวแทนประกันบอกไม่ต้องกังวล เดี๋ยวส่งมาให้ทีหลัง ใครจะไปคิดว่า ทำประกันบน ธกส.แล้วจะถูกหลอก

“กว่าผมจะได้เงิน 3 หมื่น เราต้องทำงานกันทั้งปี จู่ๆมาหลอกกันแบบนี้ก็เสียความรู้สึก”... “ไม่ได้คิดเลยว่าจะถูกหลอก เพราะทำกันบน ธกส. เราถือว่า ธกส.เหมือนลูกพี่ของเรา มีปัญหาอะไรก็ไปหา ธกส. ใครจะคิดว่า ธกส.จะเอาคนอื่นมาเตะเรา” ตัวอย่างคำพูดที่สะท้อนอารมร์และความรู้สึกของชาวบ้าน

ทางผู้บริการ ธกส. และ บมจ.ไทยพาณิชย์ พยายามบอกเป็นภาษาทางการว่า “เรื่องนี้เกิดจากการสื่อสารที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของตัวแทนประกัน”

แต่ถ้าจะพูดแบบตรงไปตรงมา ตามภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจ มันก็คือ “การหลอกลวง การฉ้อโกง”

อย่างไรก็ตาม แม้ชาวบ้าน จะรู้ว่าพวกเขา “ถูกต้ม” แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ต้องการเงินค่าเบี้ยประกันคืน”  ยังไม่ได้ยินใครพูดว่าต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นี่แหละชาวบ้าน ซื่อๆ ไม่คิดซับซ้อน ...เอาเงินฉันไป ก็เอาเงินฉันคืนมา ไม่ได้คิดว่าต้องจัดการกับพวก “ขี้ฉ้อ”

แต่ผู้บริหาร ธกส.บอกว่า ตอนนี้ทางไทยพาณิชย์กำลังตั้งกรรมการสอบเพื่อดำเนินคดีกับ “ตัวแทนประกัน” รายนั้น และยินดีคืนเงินให้ชาวบ้านที่ไม่ประสงค์จะทำประกันต่อ โดยขอให้ชาวบ้านไปแจ้งความไว้ ขณะเดียวกัน ธกส.เองก็กำลังตรวจสอบเช่นกันว่า มีเจ้าหน้าที่ของ ธกส.ไปมีนอกมีในกับเรื่องที้เกิดขึ้นหรือไม่ หากพบก็ต้องจัดการ

และ ธกส.กำลังจะทำหนังสือถึง ธกส.ทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบว่ามี "ลพบุรีโมเดล" เกิดขึ้นที่ไหนอีกหรือไม่

พ่อแม่ ญาติพี่น้องใคร ไปกู้เงินกับ ธกส. เจ้าของสโลแกน “เคียงคู่ รู้ค่าประชาชน” และทำประกันไว้ ไปตรวจสอบกันให้ดีนะคะว่า ตกเป็น "เหยื่อ" บริษัทประกันไปด้วยหรือเปล่า???

(เรื่องโดยสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์)

+++++++++++

หมายเหตุ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวนี้ค่ะ...

ชาวบ้านลพบุรีโวยกู้เงิน ธ.ก.ส. ถูกบังคับทำประกันหนี้ เรื่องแดงหลังมีชาวบ้านตายแต่ไม่ได้เงิน http://tinyurl.com/d9yujtu

ตำรวจเรียกชาวบ้านเหยื่อประกันเงินกู้มาสอบถามเพื่อรวบรวมข้อมูล http://tinyurl.com/d6eno4f

'บ.ประกัน'ยันจ่ายเยียวยาชาวลพบุรี http://tinyurl.com/d8k2yg7

สั่ง'ธ.ก.ส.'ทั่วไทยสอบกู้เงินแถมประกัน http://tinyurl.com/c9b97jw




http://www.lawyers.in.th/forum.php?mod=viewthread&tid=5702


เรื่องมีอยู่ว่า แม่ยายผมได้ไปกูเงินกับ ธนาคาร ธกส ประมาณ70,000บาท ทางธนาคาร ธกส ได้ให้แม่ยายผมทำประกันชีวิต สินเชื่อกับ บริษัท AIA วงเงินเอาประกันภัย100,000 เมื่อวันที่10 ก.พ. 2548 เป็นแบบรายปี ต้องจ่ายทุกปี กรณีสียชีวิต (จะได้เอาเงินประกันหักหนี้สินถ้าหากยังมีหนี้อยู่) ทุกๆปี แม่ยายก็จะจ่ายดอกเบี้ยของเงินกู้+กับค่าเบี้ยประกันของ AIA ป่ะมาณ400บาท+กับดอกเบี้เงินกู้ ต่อมาได้กู้เงินออกรถ ไถนา แบบเดินตาม ก็ได้ไปกู้เงินเพิ่ม อีกประมาณ60,000บาท รวมเป็นเงินที่กู้ 125,917บาท ซึ่งเกินจาก วงเงินกันประกันภัยที่ทำไว้กัน AIA ทางธนาคาร จึงได้ให้ทำประกันชีวิตเพิ่มอีก1ประกัน คือของ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด วงเงินการเอาประกันภัย 100,000บาท และได้มีการ จ่ายดอกเบียเงินกู้กับธนาคาร+เบี้ยประกันภัยAIA+ เบี้ยประกันภัย บริษัทไทยประกันชีวิต ทุกปี จนปี2556 แม่ยายผมได้เสียชีวิตลงด้วยการล้มในห้องน้ำ แล้วต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเวลา3เดือนแล้วก็ได้เสียชีวิตลง ซึ่งแม่ผมได้ทำ ฌาปนกิจสงเคราะห์ ของลูกค้า ธ.ก.ส กับ ฌาปนกิจ หมู่บ้าน หลังจากเสียชีวิตก็ได้จัดงานศพ จนแล้วเสร็จใช้เงินจากฌาปนกิจหมู่บ้าน ต่อมา ทางแฟนผมได้ ไปติดต่อรับ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ของลูกค้า ธ.ก.ส ที่แม่ยายผมได้ทำไว้ ซึ่งเป็นเงิน135,500บาท แต่ทางธนารคารแจ้งว่า ธนาคารจะต้องหักเงิน จาก ฌาปนกิจสงเคราะห์ ของลูกค้า ธ.ก.ส เพื่อใช้หนี้ เงินกู้ ซึ่งเป็นเงินจำนวน125,000บาท แล้วก็ได้หักไปแล้ว

คำถามแรก ผมอยากทราบว่าทางธนาคารมีสิทธหังเงินจาก ฌาปนกิจสงเคราะห์ ของลูกค้า ธ.ก.ส หรือไม่ (แล้วจะให้ทำประกันชีวิตไว้ทำไมต้อง 2บริษัท)

ต่อมาก็ได้ ส่งเอกสารหลักฐาน การทำประกัน ชีวิตเพื่อขอรับเงิน ประกันภัย ของ AIA กับ ไทยประกันชีวิต ใช้เวลาประมาณ90วัน ตอนนี้ ทางบริษัท ไทยประกันชีวิต ได้จายเงินมาแล้ว ทางธนาคาร ธ.ก.ส ได้เดินเรื่องให้ทั้งหมด แต่ ของAIA ทางธนาคาร ปฏิเสธ ที่จะเดินเรื่องให้ แล้วบอกให้ทางญาติผู้เสียชีวิต(ซื่งเป็นแฟนผม) ติดต่อกับ ทางAIAด้วยตัวเอง ผมได้โทรไปที่สำนักงานใหญ่ของ AIA ทางสำนักงานใหญ่แจ้งว่า กรณีนี้ ทางธนคาร ธ.ก.ส. จะต้องเป็นคนเดินเรื่องให้ ทุกอย่าง แบบเดียวกับ ของ ไทยประกันชีวิต แล้วได้ขอให้ผมส่งเอกสารที่แม่สมัครประกัน ไปที่สำนักงานใหญ่AIA เพื่อตรวจสอบ(ส่งแบบEMS) แล้วก็ยังไม่มีใครติดต่ออะไรกลับมาเป็นเวลา1อาทิตย์ ต่อมาผมได้ไป หาเอกสารเก่าๆที่แม่ยายผมเก็บเอาไว้อย่างดี ผมพบว่า มีเอกสารที่น่าจะเป็นต้นขั่วซึ่ง ต้องแบ่งเป็น2ส่วน ส่วนที่1 ทางธนาคารต้องส่งไปที่สำนักงานใหญ่ของAIA ส่วนที่2 ทางธนาคาร ธ.ก.ส. จะต้องเก็บไว้ ที่ผมไม่เข้าใจคือทำไมเองกสารฉบับนี้ถึงอยู่กับแม่ยายผมมาเป็นเวลา8ปี ถูกเก็บไว้อย่างดี เลยทำให้ทาง ธนาคาร ไม่สามารถเดินเรื่องกับประกันของAIAให้ได้ (แต่ประกันชีวิตทั้ง2 ได้มีการจ่ายเบี้ยประกันทุกปีเพราะจ่ายพร้อมกับดอกเบี้ยทุกปี)

คำถามสุดท้าย เอกสารที่ผมเจอแล้วเข้าใจอย่างที่ว่ามันน่าจะเป็น ทางแม่ยายผมผิด รึว่างทางธนาคารผิด แล้วสามารถแจ้งความ หรื่อฟ้องร้องกับธนาคารได้หรื่อไม่ แล้วผมต้องทำอย่างไรบ้าง


ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง

ตามหลักประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 897
ถ้าสัญญาประกันชีวิต ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ เงินอันจะพึงใช้เมื่อผู้เอาประกันภัยตาย ให้ตกเป็นกองมรดกของผู้เอาประกันภัย ซึ่งเจ้าหนี้จะเอาใช้หนี้ได้
แต่ถ้าสัญญาประกันชีวิตระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้โดยเฉพาะเจาะจง  เงินอันพึงจะใช้เมื่อผู้เอาประกันตาย ให้ตกเป็นของผู้รับประโยชน์ แต่ เจ้าหนี้จะเอาใช้หนี้ได้เพียงจำนวนเบี้ยประกันภัยซึ่งผู้เอาประกันภัยได้ส่งไปแล้วเท่านั้น

เรื่องนี้อาจมีความขัดข้องทางเทคนิค วิธีการระหว่างธนาคารกับ บ. AIA ตามระเบียบการรับทำประกันภัยของ บ. AIA ซึ่งอาจจะกำหนดให้ต้องระบุชื่อผู้รับประโยชน์ ซึ่งผู้รับประโยชน์ โดยทั่วไป ก็คือ ทายาท ตามแต่ผู้เอาประกันภัยจะเป็นผู้ระบุไว้ให้  แต่ไม่ใช่ระบุเจ้าหนี้เป็นผู้รับประโยชน์ เพราะ ตามเจตนารมณ์ ต้องการให้เจ้าหนี้รับชำระหนี้เพียงตามจำนวนหนี้ที่มีอยู่ และเมื่อรับแล้ว ให้หนี้ระงับไปตามที่ชำระ ไม่ใช่ว่าเจ้าหนี้ได้รับประโยชน์ตามเงินประกันภัย   สำหรับบริษัทไทยประกันชีวิต กับธนาคารอาจจะมีวิธีการรูปแบบที่ตกลงทำกันได้  แต่ บริษัท AIA อาจไม่ตกลงด้วยกับรูปแบบวิธีการที่ธนาคารต้องการ เช่น ระบุธนาคารเป็นผู้รับประโยชน์ , ไม่ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ , ระบุวิธีแปลกๆอื่นเป็นการพิเศษ ฯลฯ    ทำให้เรื่องยังค้างคา ไม่สมบูรณ์ ตามที่ธนาคารต้องการ

ผมคิดว่า ประกันชีวิตที่แม่ยายของเจ้าของกระทู้ทำไว้กับบริษัท AIA น่าจะเป็นประกันชีวิตแบบทั่วไป ดังกล่าวแล้วตอนต้น ถ้าไม่ระบุผู้รับประโยชน์ไว้ ย่อมเข้าสู่กองมรดกซึ่งเจ้าหนี้ทั้งหลาย (ไม่เฉพาะธนาคาร) มีสิทธิเรียกร้องให้เอามาชำระหนี้ได้  หรือ ถ้าระบุชื่อผู้รับประโยชน์ ย่อมตกเป็นของผู้รับประโยชน์ ซึ่งไม่ถือเป็นมรดก แต่เป็นเงินได้ตามสัญญาประกันชึวิต อันเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก  เจ้าหนี้กองมรดกอาจเรียกร้องให้ชำระหนี้จากเงินประกันภัยได้ ไม่เกินเบี้ยประกันภัยที่ส่งไปแล้วเท่านั้น


http://pantip.com/topic/31464760
ทำไม ธกส ต้องบังคับซื้อรถจักยานตนย์ ปุ๋ย ประกันชีวิต เวลาจะกู้เงิน
กระทู้คำถาม
ร้องทุกข์คุ้มครองผู้บริโภคสินเชื่อธุรกิจธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
พอดีที่บ้านผมจะซื้อรถไถ  ไปติดต่อ ธกส เพื่อสอบถามเรื่องการกู้เงิน ได้คำตอบไม่ค่อยจะดีนัก มีเงือนไขอะไรแปลกๆมากมาย เช่น จะกู้เงินได้ต้องซื้อปุ๋ยด้วย(จากตัวแทนที่ ธกส กำหนด) ซื้อรถจักยานยนต์ด้วย(จากตัวแทนที่ ธกส กำหนด) และต้องซื้อรถไถจากบริษัทที่ ธกส กำหนดเท่านั้น  และยังต้องทำประกันชีวิตด้วย (จากตัวแทนที่ ธกส กำหนด)  ทั้งหมดที่กล่าวมามันเต็มไปด้วยช่องทางทุจริตทั้งนั้น   บางคนมีอาชีพประมงแต่ก็ยังถูกบังคับให้ซื้อปุ๋ยด้วย(ซื้อมาก น้อย ขึ้นอยู่กับวงเกินกู้ อย่างเช่น 100,000 ต้องซื้อปุ๋ย 10 กระสอบ) จริงๆแล้ว ธกส น่าจะเป็นธนาคารสำหรับช่วยเกษตรกร แต่ตรงข้ามเลยเต็มไปด้วยการทุจริต หากไม่รับเงื่อนไงดังกล่าวก็กู้เงินไปได้ สุดท้ายก็ต้องยอม

ผมมีแนวคิดว่าจะเอาคลิปการพูดเจรจา การตกลงทำสัญญา  ที่มีเนื้อหาตามที่ผมกล่าวมาข้างต้นเผยแผ่ผ่าน Facebook แล้วแช่กันไปให้ทั่ว อยากรู้ว่าการกระทำดังกล่าวจะผิดกฎหมายหรือไม่






http://www.pamook.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=153737
ประกันชีวิต ฌาปณกิจ ธกส. แจ้งลบกระทู้


ขอถามเรื่อง เอาเงินประกันครับ  ธกส. ครับ

คือว่า ผมได้ทำฌาปณกิจ ธกส. ประกันชีวิต พ่อแม่  คนละ 140000  บาท แต่พ่อแม่ เป็นหนี้ ธกส. อยู่ เวลาพ่อแม่เสียชีวิต ทาง ธกส. ต้องหักเงินจำนวนนี้ไปเลยหรือไม่ ครับ  แต่พ่อแม่ผมให้เป็นคนรับผลประโยชน์ (ข้อสงสัยครับ ไม่อยากให้เกิดจริง)



ผู้ตั้งกระทู้ พล :: วันที่ลงประกาศ 2006-03-08 11:38:07 IP : 203.146.103.180


[1] 2 3 ถัดไป >>

ความเห็นที่ 1 (410796)
 แจ้งลบความคิดเห็น
จะตอบได้ชัดเจนเลย .. ต้องดูข้อสัญญาที่คุณทำกับ ธกส. นะ ..

แต่ในความเห็นส่วนตัว .. ธกส.ไม่น่าจะหักเงินจำนวนนี้ได้ทันที เพราะเป็นเงินคนละส่วนกัน ..

ผู้แสดงความคิดเห็น nor วันที่ตอบ 2006-03-08 22:16:31 IP : 203.153.169.236


ความเห็นที่ 2 (2876434)
 แจ้งลบความคิดเห็น
ธกส. ไม่มีสิทธิหักหนี้จากเงินเอาประกันได้ ยกเว้นเบี้ยประกันที่ชำระไปแล้วเท่านั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ชาติ 0894818988 วันที่ตอบ 2008-07-15 21:36:19 IP : 58.8.26.38


ความเห็นที่ 3 (2880641)
 แจ้งลบความคิดเห็น
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน

กรมการประกันภัย มีงานบริการศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการเรียกร้องเงิน ค่าสินไหมทดแทนหรือเงินผลประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือผู้เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัยประสบปัญหากับบริษัทประกันภัย เช่น การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนล่าช้า ไม่ครบถ้วน หรือ ปฏิเสธการชดใช้โดยไม่เป็นธรรม

ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนมีสถานที่ตั้งทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ดังนี้

1) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนส่วนกลาง
กรมการประกันภัย
(ชั้น 3 ) ตึกกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 44/100 ถนนสนามบินน้ำ - นนทบุรี ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 11000
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 0-2547 - 4609

สำนักงานคุ้มครองผู้เอาประกันภัยเขต
- เขต 1 ตั้งอยู่เลขที่ 446/3 โครงการปาร์คอเวนิว ถนน สุขุมวิท 71 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพ ฯ 10110
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 0-2711 - 0570-1

- เขต 2 ตั้งอยู่เลขที่ 4/4 ซอยวิภาวดีรังสิต 44 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพ ฯ 10900
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 0-2562 - 0751-4

- เขต 3 ตั้งอยู่เลขที่ 287 ถนนรัชดา - ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพ ฯ 10600
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 0-2476 - 1062

- เขต 4 ตั้งอยู่เลขที่ 60/78-79 ถนนปิ่นเกล้านครชัยศรี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ ฯ 10170
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 0-2434 - 7572

2) ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนส่วนภูมิภาค ติดต่อร้องเรียนได้ที่สำนักงานประกันภัยจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณอาคารสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ตรวจราชการแผ่นดิน วันที่ตอบ 2008-07-22 20:10:34 IP : 58.9.8.81


ความเห็นที่ 4 (2958821)
 แจ้งลบความคิดเห็น
อยากรู้ว่าถ้าจะเปลี่ยนชื่อผู้รับเงินฌาปณกิจต้องทำอย่างไรบ้าง
ผู้แสดงความคิดเห็น วัน วันที่ตอบ 2009-01-11 15:43:09 IP : 61.90.70.37


ความเห็นที่ 5 (3065469)
 แจ้งลบความคิดเห็น
ฌาปนกิจ ธกส. อ.ลานสัก(ปากเหมือง) จ.อุทัยธานี เก็บเงินค่าทำเนียมประกันสูงขึ้นทุกปี บางปีเก็บปีละ2 ครั้ง ครั้งละเกือบ 2000 บาทโดย ธกส. สาขาลานสักได้อ้างว่า มีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกปีตั้งแต่เริ่มทำประกันมา ไม่เห็นว่า จะมีทีท่าคนตายลดน้อยลงเลย มีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ยังไงกันกันแน่...ช่วยอธิบายหน่อยครับ แล้วเวลาไปส่งเงืนประกันชีวิต ธกส.มีแต่ตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น ไม่มีรายละเอียดใดๆบอกให้รู้ว่า

นี่เป็นตัวเลข จำนวนผู้เสียชีวิตจริงๆ เมื่อเปรียบกับ ธกส. ที่อื่นเช่น อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี จะเก็บเบี้ยประกัน ฌาปนกิจ คงที่เท่าๆกันทุกปี ปีละ 1500 บาท อย่างไรช่วยชี้แจ้งหน่อยละกันนะครับ จะได้หายสงสัย






https://www.baac.or.th/content-news.php?content_id=012073&content_group_sub=0001&content_group=0003&inside=1
ธ.ก.ส. หนุนกระบวนการสหกรณ์ จับมือสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการประกันชีวิต ให้กับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. สมาชิกสหกรณ์และประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มทางเลือกในการสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้แก่ชีวิตของตนเองและครอบครัวพร้อมออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงภาระสินเชื่อ ในอัตราเบี้ยประกันต่ำ

(30 สิงหาคม 2555) ที่โรงแรมเดอะเวสทินแกรนด์สุขุมวิท ถนนสุขุมวิท 19 กรุงเทพมหานคร นายจิรเดช วรเพียรกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการประกันชีวิต ระหว่าง นายอรุณ เลิศวิไลย์ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนายศุภชัย ศรศุภอักษร ประธานกรรมการ บริษัทสหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้เพื่อร่วมสร้างหลักประกันภัยในการคุ้มครองชีวิต ทรัพย์สินรวมทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ และประชาชนทั่วไป

นายอรุณ เลิศวิไลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่าบริษัทสหประกันชีวิต ถือเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงน่าเชื่อถือ จัดตั้งโดยสหกรณ์ไทย โดยมีสหกรณ์เป็นผู้ถือหุ้น 100 % จำนวน 2,217 สหกรณ์ทั่วประเทศ และมีสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.(สกต.) ร่วมถือหุ้นด้วย ดังนั้น การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างธ.ก.ส. และบริษัทสหประกันชีวิตนอกจากเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส.และประชาชนทั่วไป ได้มีทางเลือกในการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ชีวิตของตนเองและครอบครัว โดยทำประกันชีวิตกับบริษัทที่มีฐานะมั่นคง มีการให้บริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ในราคาที่เป็นธรรมแล้ว ยังช่วยสนับสนุนธุรกิจของกระบวนการสหกรณ์ ซึ่งเป็นองค์กรที่เกษตรกรเป็นเจ้าของและเป็นสมาชิก ให้มีความเข้มแข็งเติบโตสามารถดำเนินธุรกิจและดูแลสมาชิกได้แบบครบวงจร ซึ่งความร่วมมือในการดำเนินงานครั้งนี้บริษัทสหประกันชีวิต จะเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับ ธ.ก.ส.พร้อมดำรงยอดเงินฝากในบัญชีไว้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันในการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ลูกค้าผู้รับประโยชน์ และจะออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองครอบคลุมไปถึงภาระสินเชื่อที่ลูกค้ามีกับธนาคารโดยคิดค่าเบี้ยประกันในอัตราที่ต่ำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้มีภาระหนี้สิน

สำหรับการดำเนินงานตามโครงการประกันชีวิต ธ.ก.ส.จะเป็นผู้รวบรวมรายชื่อและเอกสารแบบพิมพ์ใบคำขอเอาประกันชีวิตรวมทั้งหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ขอทำประกันชีวิต รวบรวมเงินค่าเบี้ยประกันและดำเนินการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ขอทำประกันชีวิต และเป็นผู้ประสานงานในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ระหว่างผู้รับประโยชน์กับบริษัท โดยพนักงาน ธ.ก.ส.จะทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและหลักฐานต่างๆให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัท รวมทั้งจะจัดให้มีการประเมินผลการดำเนินการและการบริการของบริษัท ปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อให้บริษัทใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงการดำเนินงานต่อไป

ด้าน นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการบริษัทสหประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ ธ.ก.ส. ในการจัดบริการประกันภัยแก่ลูกค้าธนาคาร เพราะเล็งเห็นว่ากลุ่มลูกค้าของธนาคารกับลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกัน กล่าวคือ เป็นเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ ซึ่งบริษัทมีความคุ้นเคยและชำนาญในการประสานงานเป็นอย่างดีประกอบกับการเสนอบริการประกันชีวิตในครั้งนี้ เป็นประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อของลูกค้าธนาคาร ซึ่งบริษัทได้ออกแบบมาเพื่อให้บริการเฉพาะเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์ และลูกค้าของธนาคารเท่านั้น บริษัทจึงกำหนดค่าเบี้ยประกันในอัตราต่ำ ลูกค้าสามารถชำระได้โดยไม่เดือดร้อน ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จึงกลับสู่ลูกค้าผู้ใช้บริการ ซึ่งตรงตามความมุ่งหวังของธนาคารและบริษัทที่ต้องการให้สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสวัสดิการและหลักประกันที่มั่นคงยิ่งขึ้นไป






Home  สหประกันชีวิตยันมั่นคง ฝาก 20 ล.กับ ธ.ก.ส.แล้ว http://www.dbbnews.com/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87-%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81-20-%E0%B8%A5-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%98-%E0%B8%81-%E0%B8%AA-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7
สหประกันชีวิตยันมั่นคง ฝาก 20 ล.กับ ธ.ก.ส.แล้ว

‘สหประกันชีวิต’ แจง การดำเนินธุรกิจไม่เกี่ยวข้องสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น แม้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ระบุแยกแยะองค์กรกับตัวบุคคล ชี้’ศุภชัย ศุภศรีอักษร’เป็นประธานบอร์ดบริษัทแต่ไม่ได้มีบทบาท แค่มาประชุมเดือนละครั้ง ยืนยันบริษัทยังมั่นคงพร้อมเดินหน้าทำธุรกิจ ลูกค้า-ผู้บริหาร-พนักงาน ธ.ก.ส.ที่บริษัทเพิ่งเซ็นสัญญาเข้าไปทำประกันสินเชื่อให้เมื่อปีก่อนมั่นใจได้ ไม่มีเบี้ยว ทั้งวางเงินฝาก 20 ล้านเป็นประกันกับ ธ.ก.ส.ตั้งแต่เซ็นสัญญา ส่วน ธ.ก.ส.ยังอยากถือหุ้นหรือไม่ต้องว่ากันใหม่

นายสหพล สังข์เมฆ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ว่า จากกรณีกระแสข่าวปัญหาภายในสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ (DSI) ได้เข้ายึดและอายัดทรัพย์ นายศุภชัย ศุภศรีอักษร ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น หลังพบมีการปล่อยสินเชื่ออย่างผิดปกติจนสหกรณ์ฯ ได้รับความเสียหายคิดเป็นจำนวนเงินราว 1.2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ในปัจจุบัน สหกรณ์ฯคลองจั่น ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทสหประกันชีวิต ซึ่งทำให้ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของสหประกันชีวิตเกิดความวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัท โดยเฉพาะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่บริษัทได้เซ็นบันทึกความตกลง (MOU) เข้าไปดำเนินการประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าเกษตรกรของ ธ.ก.ส.เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทสหประกันชีวิตขอยืนยันว่า กรณีปัญหาของสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เป็นกรณีของตัวบุคคล ไม่ได้เป็นปัญหาของสหกรณ์ฯคลองจั่นที่ถือหุ้นบริษัทสหประกันชีวิตในฐานะผู้ถือหุ้นที่เป็นองค์กรหรือนิติบุคคล โดยการเข้าถือหุ้นสหประกันชีวิตมีมติที่ประชุมของสหกรณ์ฯคลองจั่น มีนายทะเบียน และมี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รับรองอย่างถูกต้อง ขณะที่โครงสร้างของทั้ง 2 องค์กรก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน โดยบริษัทสหประกันชีวิตยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ โดยที่ปัญหาของสหกรณ์ฯคลองจั่น ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทสหประกันชีวิตแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การเข้าถือหุ้นของสหกรณ์ฯคลองจั่นในบริษัทสหประกันชีวิต เกิดจากในปี 2550 บริษัทมีเงินกองทุนติดลบ ทำให้ต้องมีการเพิ่มทุน 500 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ฯ คลองจั่นที่เป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่มากในขณะนั้นได้แสดงความจำนงค์เข้าถือหุ้นเพิ่มทุนจนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 53% โดยมีสหกรณ์ขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และสหกรณ์ทั่วประเทศรวม 2,216 สหกรณ์ร่วมถือหุ้นด้วย ซึ่งถือหุ้นรวมกันเป็นเงิน 771.06 ล้านบาท

ในเวลาต่อมา ในเดือนเมษายน 2556 หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทสหประกันชัวิตมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2,000 ล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบริษัทสหประกันชีวิต และมีการดำเนินการเพิ่มทุนแล้วบางส่วนตามกำลังความสามารถ และความสมัครใจของแต่ละสหกรณ์ ทำให้ในปัจจุบันสหกรณ์ฯคลองจั่นมีสัดส่วนการถือหุ้นเหลือราว 30% และสัดส่วนอาจลดลงเรื่อยๆ เมื่อสหกรณ์อื่นๆ ถือหุ้นเพิ่มขึ้น และสหกรณ์ฯคลองจั่นไม่ลงทุนถือหุ้นเพิ่มเติม

“คุณศุภชัยยังเป็นประธานบอร์ดของสหประกันชีวิตตามวาระที่เป็นประธานบอร์ดสหกรณ์ฯคลองจั่น แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนัก เพราะบอร์ดประชุมกันเดือนละครั้ง การมาประชุมบอร์ดก็ได้รับเบี้ยประชุมไปเท่านั้น” นายสหพล กล่าวและเผยต่อไปว่า

ส่วนกรณีการเซ็นสัญญาเข้าไปทำประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าของ ธ.ก.ส. โดยเมื่อลูกค้าผู้ใช้สินเชื่อจาก ธ.ก.ส.เสียชีวิต ในระหว่างเทอมของสินเชื่อ บริษัทจะเป็นผู้จ่ายสินไหมทดแทน เพื่อไม่ให้ภาระสินเชื่อตกไปอยู่กับครอบครัวของลูกค้า ซึ่งเป็นการทำประกันแบบสมัครใจ ลูกค้า ธ.ก.ส.จะเลือกทำประกันหรือไม่ทำก็ได้ ทั้งนี้ บริษัทได้วางเงินฝาก 20 ล้านบาทเพื่อเป็นประกันกรณีการไม่จ่ายสินไหมตามสัญญากับ ธ.ก.ส.แล้วตั้งแต่วันเซ็นสัญญาในเดือนสิงหาคม ปี 2555 ที่ผ่านมา จึงอยากให้ลูกค้า ผู้บริหารในภูมิภาค และพนักงานผู้ปฏิบัติของ ธ.ก.ส.มั่นใจได้ว่า บริษัทจะดำเนินการทุกอย่างตามที่ทำสัญญาไว้อย่างแน่นอน

“ตั้งแต่เซ็นสัญญากับ ธ.ก.ส.ในเดือนสิงหาคมปีก่อน เราก็ได้เข้าไปขายประกันจนมีลูกค้าแล้ว 3 พันราย มีเบี้ยประกันรับ 30 ล้านบาท จากทุนประกัน 1,900 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มาก เพราะเพิ่งเข้าไปทำได้ไม่นาน แต่มาสะดุดหลังจากมีข่าวเรื่องสหกรณ์ฯคลองจั่นที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเรา ทำให้ลูกค้า และพนักงาน ธ.ก.ส.เกิดความไม่มั่นใจ จึงอยากชี้แจงว่า แม้จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหาร และสหกรณ์ฯคลองจั่นก็ถือหุ้นในนามองค์กร ไม่ใช่บุคคล ดังนั้น กรณีสหกรณ์ฯคลองจั่น จึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัทสหประกันชีวิต ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องยังสามารถทำธุรกิจกับบริษัทได้ตามปกติ

สำหรับกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่ผู้บริหารระดับสูงของ ธ.ก.ส.มีแนวคิดให้ ธ.ก.ส.เข้าถือหุ้นบริษัทสหประกันชีวิตในสัดส่วน 10% เนื่องจากเห็นว่าเป็นองค์กรที่มีอุดมการณ์ด้านการเกื้อกูลสมาชิกสหกรณ์เหมือนกัน แต่หลังจากกระแสข่าวของสหกรณ์ฯคลองจั่น แนวคิดดังกล่าวได้เงียบหายไป และทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้เริ่มต้นพูดคุยกันใหม่แต่อย่างใด” นายสหพล กล่าว






ไทยประกันชีวิตฯโดดทำประกันกลุ่มให้ลูกหนี้ธกส.ที่เข้าร่วมแก้หนี้นอกระบบ http://update66.com/page.php?id=43947
นายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำประกันชีวิตให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับลูกค้า โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาหนี้สินผูกพันต่อครอบครัวและทายาทของผู้กู้เงิน


สำหรับ อัตราเบี้ยประกันอยู่ที่ 0.26 บาท ต่อทุนประกัน 100 บาท เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ถึงวันที่ 30 กันยายนพ.ศ.2557 มีจำนวนลูกค้าเข้าร่วมโครงการกว่า 270,000 ราย วงเงินกู้ทั้งสิ้นประมาณ 27,000 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันทั้งสิ้น 280.80 ล้านบาท หรือปีละ70.20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การประกันในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการประกันกลุ่ม และในกรณีนี้ลูกหนี้ของธนาคารต้องทำประกันทุกราย และกำหนดเพดานของทุนประกันสูงสุดไม่เกิน200,000 บาทต่อราย โดยความคุ้มครองจะลดลงตามยอดหนี้ที่ลดลงในแต่ละปี เช่น ลูกหนี้มียอดหนี้อยู่ 200,000 บาท ทำประกันมาแล้ว 3 ปี ยอดหนี้คงเหลือ 100,000  บาท ในกรณีที่เสียชีวิต บริษัทก็จ่ายเท่ายอดหนี้คงเหลือ โดยจ่ายค่าสินไหมให้กับ ธนาคารเนื่องจากเป็นผู้ที่ชำระเบี้ย


นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเพื่อต้องการแก้ปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบให้กับประชาชนฐานราก ดังนั้น การเพิ่มสิทธิด้านประกันชีวิตให้กับลูกค้าเกษตรกรที่เข้าสู่โครงการ หนี้นอกระบบกับ ธ.ก.ส. ครั้งนี้จึงช่วยให้อุตสาหกรรมเข้ามามีบทบาทกับประชาชนมากขึ้น


นอกจากนี้รัฐยังพยายามที่จะจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อผลักดันการออมให้กับเกษตรกรในวัยเกษียณ เพื่อจะได้มีเงินบำนาญเมื่อถึงช่วงเกษียญอายุ โดยเฉพาะอาชีพอิสระที่ปัจจุบันมีจำนวนถึง 25 ล้านคน ให้มีหลักประกัน คาดว่าในอนาคตจะขยายไปสู่การคุ้มครองสวัสดิการด้านอื่นๆ เช่นการประกันชีวิต



เล็งตั้ง"ธนาคารชาวนาไทย"


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU1qZzJNREl5TXc9PQ==&sectionid=
รม ช.พาณิชย์กล่าวต่อว่า 3.เสนอให้มีการจัดตั้งธนาคารชาวนาไทย (ธชนท.) ซึ่งเป็นแนวคิดในระยะกลางและยาว ซึ่งจะเป็นธนาคารที่จัดตั้งโดยชาวนา รวมทั้งเอกชนที่เกี่ยวข้องกับวงการข้าว เช่น ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ส่งออกข้าว เป็นต้น และอาศัยระบบการเงินการธนาคารเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวนาโดยเฉพาะ โดยกรมการค้าภายใน (คน.) จะเป็นผู้ประสานความร่วมมือต่างๆ



นาย ยรรยงกล่าวอีกว่า สำหรับข้อเสนอดังกล่าวนั้นเกิดจากชาวนาได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่ได้ รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวเพราะมีการกดดันไม่ให้ธนาคารต่างๆ ปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการ ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ดำเนินการโครงการมาไม่เคยมีปัญหาในการจ่ายเงินคืนให้ชาวนาที่เข้าโครง การ จึงต้องมีการเสนอข้อเสนอทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็นการทำผิดข้อกฎหมายใดๆ ทั้งการโยกเงินฝากจากธนาคารอื่นมายังธ.ก.ส. เพราะถือว่าเป็นสิทธิของเจ้าของบัญชีและเงินก็ยังหมุนเวียนอยู่ในประเทศ ส่วนการระดมทุนก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือชาวนาโดยตรง เนื่องจากชาวนาเองก็ได้รับความเดือดร้อนก็น่าจะแก้ปัญหาไปก่อน เหมือนกับการเปิดบัญชีระดมทุนเพื่อช่วยเหลือทั่วไป และการจัดตั้งธนาคารก็เป็นการแก้ปัญหาระยะยาวที่ต้องมีการศึกษารายละเอียด ต่อไป




ธ.ก.ส.ระยอง จ่ายเงินรับจำนำข้าวเกษตรกร 8 อำเภอ 296 ราย รวม 31.1 ล้านบาท  http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000059157


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2557 17:37 น.  



ธ.ก.ส.ระยอง จ่ายเงินรับจำนำข้าวเกษตรกร 8 อำเภอ 296 ราย รวม 31.1 ล้านบาท
ธกส.ระยอง จ่ายเงินรับจำนำข้าวเกษตรกร 8 อำเภอ 296 ราย รวม 31.1 ล้านบาท
       ระยอง-ธ.ก.ส.ระยอง จ่ายเงินรับจำนำข้าวให้แก่เกษตรกร ใน 8 อำเภอ รวม 296 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 31.1 ล้านบาท
     
       วันนี้ (27 พ.ค.) ที่สวนผลไม้ลุงทองใบ หมู่ 11 ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง นายสันติ ชินาลัย ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันออก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ภาคตะวันออกรับผิดชอบ 9 จังหวัด มีภารกิจการจ่ายเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก แต่ในพื้นที่ 9 จังหวัด มีจังหวัดที่มีการทำนาไม่กี่จังหวัด เช่น ฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครนายก ชลบุรี สมุทรปราการ ส่วนจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด มีการจ่ายเงินกู้จำนำข้าวไปหมดแล้ว 100% ขณะนี้ยังมีค้างจ่ายอยู่ประมาณ 4,700 กว่าราย คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการจ่ายให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนมิถุนายนนี้
     
       นายสันติ กล่าวว่า ธ.ก.ส.จะออกสลากออมทรัพย์ทวีสินชุดใหม่ จำนวน 30,000 ล้านบาท มาทดแทนชุดเดิม จุดเด่นของสลากออมทรัพย์ทวีสินชุดใหม่ จะได้สิทธิประโยชน์เหมือนเดิม เพื่อจะนำไปสมทบทุนช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางภาคเหนือ คิดเป็นมูลค่า 60 ล้านบาท ธ.ก.ส.จะสมทบให้หน่วยละ 1 บาท ขอให้รีบจอง จะได้รวบรวมเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ซึ่งชุดเดิมจะหมดในราวเดือนสิงหาคม
     
       ด้านนายบุญเลิศ ศรีแช่ม ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ.ระยอง กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือก จ.ระยอง รวม 8 อำเภอ ทาง ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวแก่เกษตรกรหมดแล้วรวมทั้งสิ้น 296 ราย เป็นเงิน 31.1 ล้านบาท
     
       ส่วนโครงการกองทุนช่วยเหลือชาวนา ขณะนี้มีผู้มีจิตศรัทธานำเงินมาสมทบเข้ากองทุนทั้ง 3 กองทุน รวม 86 บัญชี จำนวนเงิน 26.4 ล้านบาท สำหรับบัตรสินเชื่อเกษตรกรในจังหวัดระยอง มีบัตรสินเชื่อที่เปิดใช้แล้ว จำนวน 12,800 กว่าใบ วงเงิน 300 กว่าล้านบาท ส่วนเกษตรกรที่ยังเป็นหนี้ที่ใช้บัตรสินเชื่อ จำนวน 40 กว่าล้านบาท ซึ่งมีจำนวนเกษตรกรผู้ใช้อยู่ จำนวน 2,000 กว่าราย
     
       ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่รอรับเงินจำนำข้าวกว่า 800,000 ราย วงเงินกว่า 90,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยจะทยอยจ่ายเงินตามคิวใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วตามลำดับก่อนหลังอย่างเคร่งครัด โปร่งใส ตั้งแต่วันนี้ คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือนนับจากนี้
     
       สำหรับเงินที่จะนำมาใช้หมุนเวียนมาจากเงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา และเงินกู้ยืมที่กระทรวงการคลัง จัดหามาให้ในวงเงินไม่เกิน 92,431 ล้านบาท ระหว่างที่รอการกู้เงิน ธ.ก.ส.จะสำรองจ่ายไปก่อนในวงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท เพื่อให้เงินถึงมือเกษตรกรอย่างรวดเร็ว การดำเนินโครงการดังกล่าว กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ค้ำประกัน และรับผิดชอบชำระคืนเงินต้น ดอกเบี้ยตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานทั้งหมด
     
       สำหรับผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 มียอดใบประทวนรวมทั้งสิ้น 1,671,720 ราย ข้าวเปลือก 11.64 ล้านตัน จำนวนเงิน 192,950 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส.ได้ทยอยจ่ายเงินไปแล้ว ณ ปัจจุบัน จำนวน 833,182 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 6.29 ล้านตัน จำนวนเงิน 103,019 ล้านบาท จากยอดจัดสรรทั้งหมด 105,500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณ และเงินจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ 75,000 ล้านบาท เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนา 10,500 ล้านบาท และงบกลางที่รัฐบาลยืมอีก 20,000 ล้านบาท


ในสงครามเศรษฐกิจปี 2540 มีอาคารสูงในกรุงเทพ กว่า 20000 อาคารได้รับผลประโยชน์ในการหักหนี้ เป็นเงินประมาณ 8 ล้านๆบาท ปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในอนุพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งการฝากเงินซื้อหวยออมสิน  หวย ธกส และการทำประกัน
ซึ่งหมายความว่าถ้าเกิดโรคระบาดร้ายแรง บริษัทประกันชีวิตจะเกิดปัญหาทันที และยังมีซากอสังหาริมทรัพย์บางส่วนอยู่ใน ปรส.รอการซื้ออยู่

และผู้รับเคราะห์ถูกกล่าวหาว่าโจมตีค่าเงินบาท คือ CIA จนกระทั่ง FBI ได้พยายามหาข้อมูลจากเวิลด์เทรด จึงมีการพยายามทำลายหลักฐานขึ้น 911









นโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าและการย้ายโรงงานที่แออัดในสมุทรปราการมายังถนนบางนาตราดทำให้ชาวกรุงเทพมองเห็นควงอาทิตย์ได้ชัดขึ้น

นโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าและการย้ายโรงงานที่แออัดในสมุทรปราการมายังถนนบางนาตราดทำให้ชาวกรุงเทพมองเห็นควงอาทิตย์ได้ชัดขึ้น  หมายถึงคนกรุงเทพและปริมลฑลลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดได้มากกว่า8ล้านคนในคราวเดียวกันแต่คนที่เกี่ยวข้องกับที่ดินต้องรับความเสี่ยงของเกมที่ดินแบบวินๆ
ใครที่อยู่ในกรุงเทพก่อนปี2534น่าจะจำได้ว่าหมอกควันหนาแค่ไหน

เงิน3000ล้านสำหรับEast-West Economic Corridor ที่ฮ่องกง ทางจีนญี่ปุ่นหรือสิงคโปร์อาจน่าจะนำเข้าบัญชี ภรรยาน้อยของน้าชาติ แต่ทั้งนี้การที่คุณหรีด ยังต้องจัดรายการโทรทัศน์เพื่อทำมาหากินอยู่ ก็อาจหมายความว่า เงินจำนวนนั้นอยู่ในบัญชีของผู้ที่อยู่ในการอุปการะของพลเอกชาติชายตอนที่ป่วยหนัก

ส่วน ยุค คมชที่เสียหน้าตักไป2แสนล้านนั้นก็อาจจะไปเข้าพอร์ตลักษณะเดียวกันนี้ในยุโรปเป็นกองทุนที่เคลื่อนไหวโดยอิสระ และมีลักษณะเป็นค่าเม็มเบอร์เพื่อเข้ากองทุนร่วมพิเศษเช่น เซิร์น เนื่องจากเป็นประเทศกำลังพัฒนาไม่อาจออกหน้าเข้าร่วมแบบประเทศเศรษฐีได้ และมีความคืบหน้า เรื่องศูนย์วิจัยรวมกับเซิร์นที่นครราชสีมาที่เคยเกิดแผ่นดินไหวไปแล้ว

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหากผลผลิตต่ำกว่าการบริโภค และรายได้ไม่พอเพียงแก่การนำเข้า

คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหากผลผลิตต่ำกว่าการบริโภค และรายได้ไม่พอเพียงแก่การนำเข้า

สิ่งที่อาจจะช่วยเศรษฐกิจไทยได้
ข้าว

ยางพารา  ที่นอน หมอน การวิจัยยางพาราเพื่อนำไปทำสารเคลือบอาหารกระป๋องทดแทน BPA

กุ้ง
ไก่ วิตามิน สูตรอาหารไก่ที่ใส่เกลือเม็ด
ปลาทูน่า
น้ำแร่ ชาเขียว เครื่องดื่มบำรุงร่างกาย
ทองคำ การวิจัย1อะตอมของตะกั่ว

รถยนต์ ส่งออกรถยนต์ที่ใช้เกิน 5 ปี

เหมืองแร่ น้ำมัน การวิจัย จุลลินทรีย์หินน้ำมัน